Grounding โซลาร์ต้องแยกจากบ้านหรือไม่? คู่มือสายดินที่เจ้าของบ้านควรรู้
- KLANG SOLAR

- Sep 19
- 1 min read
Updated: Sep 26
เวลาพูดถึงระบบโซลาร์ คำถามยอดฮิตที่ช่างและเจ้าของบ้านมักถามกันคือ “สายดินของโซลาร์ ต้องแยกจากสายดินบ้านหรือไม่?”
คำถามนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะการทำ Ground ผิดวิธีอาจทำให้ไฟรั่วไม่ลงดิน เกิดไฟย้อนกลับเข้าระบบ หรือเสี่ยงอันตรายต่อผู้ใช้งานได้โดยตรง หลายเคสที่เกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือฟ้าผ่าเข้าแผงโซลาร์ มักจะพบว่าต้นเหตุหนึ่งคือ ระบบ Grounding ไม่ถูกต้อง วันนี้ Klang Solar จะอธิบายให้เคลียร์ พร้อมแนวทางที่ถูกต้องตามมาตรฐานวิศวกรรม

โซลาร์ต้องมี Ground แยกหรือไม่?
คำตอบคือ: ไม่ควรทำ Ground แยกอิสระเด็ดขาด
❌ หาก Ground โซลาร์กับ Ground บ้านแยกกันโดยไม่เชื่อม (Bonding) → เมื่อเกิดฟ้าผ่าหรือไฟรั่ว ศักย์ไฟฟ้าจะต่างกัน กระแสไฟอาจไหลข้ามอุปกรณ์ ทำให้เกิดความเสียหายหรือไฟช็อตได้
✅ วิธีที่ถูกต้อง → ต้องต่อ Ground ของระบบโซลาร์เข้ากับ Ground หลักของอาคาร (เช่น ตู้ MDB หรือ Ground Rod ที่บ้านมีอยู่แล้ว) เพื่อให้ระบบทั้งหมดใช้ ศักย์เดียวกัน
ปัญหา “สัญญาณรบกวน” ถ้าต่อ Ground ไม่ถูกต้อง
นอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว การต่อ Ground ผิดวิธียังอาจทำให้เกิดปัญหา สัญญาณรบกวนทางไฟฟ้า (EMI/Noise) ได้ เช่น:
ระบบ Monitoring หรือ FusionSolar อ่านค่าผิดพลาด หรือสัญญาณขาด ๆ หาย ๆ
อินเวอร์เตอร์บางรุ่นอาจ ตัดการทำงานเอง เพราะตรวจจับการรบกวนหรือค่าศักย์ดินที่ไม่สมดุล
สายสัญญาณ RS485 / Ethernet ที่รันคู่กับระบบไฟ อาจโดน “เหนี่ยวนำ” ให้ข้อมูลเพี้ยน หรือเชื่อมต่อกับ Cloud ไม่เสถียร
ดังนั้น การ Bonding Ground ให้เป็นระบบเดียวกันไม่เพียงช่วยเรื่องความปลอดภัย แต่ยังช่วยให้ระบบทำงานได้เสถียร ปราศจากปัญหาการรบกวนสัญญาณที่เจ้าของโครงการหลายคนมักเจอโดยไม่รู้สาเหตุ
การแยกเดินสายดินที่ถูกต้อง
แม้ว่า Ground ของโซลาร์กับบ้านต้องเชื่อมกัน แต่ในเชิงการเดินสายควรแยกเป็นระบบย่อยชัดเจนดังนี้:
สายดินฝั่งโซลาร์ (DC Ground): ต่อจากแผง, โครงเหล็ก, Inverter → รวมเข้าที่ตู้เมน DC
สายดินฝั่งอาคาร (AC Ground): จากตู้เมน AC → Ground Rod ของบ้าน
สุดท้าย Bonding ที่ Main Earthing Terminal (MET): เพื่อรวมเป็นระบบเดียวกัน
👉 Tip: ในบางโครงการ C&I หรือโซลาร์ฟาร์ม วิศวกรจะทำ Ground Grid หรือ Loop รอบพื้นที่ติดตั้ง เพื่อกระจายกระแสฟ้าผ่าและลดค่าความต้านทานดินได้ดียิ่งขึ้น

Grounding โซลาร์ คำแนะนำจาก Klang Solar
อย่าปัก Ground Rod แยกโดยไม่ Bonding – เสี่ยงไฟฟ้าไหลข้ามระบบ เกิดความเสียหายรุนแรง
ตรวจสอบค่า Ground Resistance (Ω): ให้อยู่ต่ำกว่า 5Ω ตามมาตรฐานทั่วไป (หรือต่ำกว่า 1Ω ในบางกรณี เช่น โรงงานหรือโครงการที่มีระบบ IT Sensitive)
เลือกใช้สายดินที่มีมาตรฐาน: สายทองแดงตีเกลียว, หุ้มฉนวนสีเขียว-เหลือง ขนาดไม่น้อยกว่า 6 sq.mm (ตามมาตรฐาน วสท.)
ตรวจสอบเป็นประจำ: อย่างน้อยปีละครั้ง เพราะความต้านทานดินจะเปลี่ยนไปตามความชื้นและสภาพดิน
อยากติดตั้ง Grounding ที่ถูกต้อง เลือก Kumwell Grounding Box Set
หลายบ้านหรือโรงงานอาจมี Ground เดิมอยู่แล้ว แต่เมื่อเพิ่มระบบโซลาร์ จำเป็นต้อง Bonding เข้ากับ Ground เดิม และเสริมจุด Grounding ใหม่หากจำเป็น เพื่อให้ค่าความต้านทานดินอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (ต่ำกว่า 5Ω หรือตามที่วิศวกรกำหนด)
Kumwell Grounding Box Set คือโซลูชันที่ช่วยให้การติดตั้งง่ายขึ้น เพราะมาแบบครบชุด ไม่ต้องหาซื้ออุปกรณ์แยก:
✅ แท่งทองแดงชุบมาตรฐาน มอก.
✅ บ่อตลับดิน ABS กันน้ำ กันสนิม อายุใช้งานยาวนาน
✅ ONE TIME สำหรับเชื่อมสายดินถาวร แข็งแรงกว่าการขันน็อตทั่วไป
✅ คู่มือสแกน QR Code เข้าใจง่าย ติดตั้งได้แม้ไม่ใช่วิศวกร
👉 ราคาชุดละเพียง 1,680 บาท/จุด ก็สามารถทำให้ระบบโซลาร์ปลอดภัยตามมาตรฐานได้ทันที 📌 Klang Solar มีจำหน่าย Grounding Box Set Kumwell พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องการเดิน Grounding โซลาร์โดยผู้เชี่ยวชาญ

สรุป
การต่อ Ground ของระบบโซลาร์ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำตามความเคยชินของงานไฟฟ้าอาคารเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจหลักการ Bonding เข้ากับระบบหลักของอาคาร เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ลดความเสี่ยงจากฟ้าผ่า ไฟฟ้าลัดวงจร และยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์
👉 หากคุณกำลังติดตั้งโซลาร์ และไม่มั่นใจเรื่องการเดิน Ground หรือเลือกสายไฟที่เหมาะสม Klang Solar มีทีมงานพร้อมให้คำแนะนำ รวมถึงจำหน่ายสายโซลาร์มาตรฐานสากล H1Z2Z2-K ที่รองรับการใช้งานจริง ติดต่อเราได้ที่ www.klangsolar.com




Comments