มือใหม่เช็กให้ชัวร์ ก่อนซื้อสายโซลาร์ที่ “ไม่ดี” กลับบ้าน

atithan
Jul 23
1 min read

สายโซลาร์เซลล์ที่ดี (หรือที่นิยมเรียกกันว่าสาย PV Cable) ไม่ใช่สายไฟธรรมดาที่ใช้ในบ้านทั่วไป แต่เป็นสายที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการใช้งานในระบบโซลาร์เซลล์โดยตรง เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และอายุการใช้งานที่ยาวนานภายใต้สภาพแวดล้อมที่ท้าทาย

สายโซลาร์เซลล์ที่ดีควรประกอบไปด้วยคุณสมบัติและองค์ประกอบหลักดังนี้

มือใหม่ เช็กให้ชัวร์ก่อนซื้อสายโซลาร์ไม่ดีกลับบ้าน

1. ตัวนำไฟฟ้า (Conductor)

ทองแดงเคลือบดีบุก (Tinned Copper): เป็นวัสดุที่นิยมใช้มากที่สุดสำหรับตัวนำในสายโซลาร์เซลล์ เนื่องจากทองแดงเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดีเยี่ยม และการเคลือบดีบุกจะช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชันและการกัดกร่อน ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานและนำไฟฟ้าได้ดีอย่างต่อเนื่อง
สายอ่อนแบบตีเกลียว (Stranded Wire): ไม่ใช่สายแข็งเส้นเดียว แต่ประกอบด้วยเส้นทองแดงเล็กๆ ตีเกลียวรวมกัน ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ทำให้ง่ายต่อการติดตั้ง การโค้งงอ และลดความเสี่ยงต่อการหักงอเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือแรงสั่นสะเทือน

2. ฉนวน (Insulation) และเปลือกหุ้ม (Sheath)

วัสดุพิเศษสำหรับงานโซลาร์เซลล์: วัสดุที่ใช้สำหรับฉนวนและเปลือกหุ้มมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยทั่วไปจะใช้ XLPE (Cross-linked Polyethylene) หรือ XLPO (Cross-linked Polyolefin) ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นดังนี้:
- ทนทานต่อรังสี UV: สายโซลาร์เซลล์มักถูกติดตั้งกลางแจ้งและสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง วัสดุเหล่านี้จึงต้องทนทานต่อรังสีอัลตราไวโอเลตได้ดีเยี่ยม เพื่อไม่ให้ฉนวนเสื่อมสภาพหรือแตกร้าว
- ทนทานต่อสภาพอากาศ: ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่รุนแรง (ร้อนจัด หนาวจัด) ความชื้น ฝน และหิมะ
- ทนทานต่อโอโซน: โอโซนในชั้นบรรยากาศสามารถกัดกร่อนวัสดุบางชนิดได้ สายโซลาร์เซลล์ที่ดีต้องทนทานต่อการกัดกร่อนจากโอโซน
- ทนกรดและด่าง: ในสภาพแวดล้อมบางแห่ง อาจมีสารเคมีหรือฝุ่นละอองที่เป็นกรด/ด่าง สายไฟควรทนต่อการกัดกร่อนเหล่านี้ได้
- ไม่ลามไฟ (Flame Retardant) และควันน้อย (Low Smoke Halogen Free - LSOH/LSZH): เป็นคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่สำคัญ หากเกิดเหตุเพลิงไหม้ สายไฟที่ดีจะไม่เป็นเชื้อเพลิงและปล่อยควันพิษน้อย เพื่อลดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
- ทนอุณหภูมิสูง: สามารถทนต่ออุณหภูมิที่ตัวนำได้สูงถึง 120°C และทนต่ออุณหภูมิแวดล้อมตั้งแต่ -40°C ถึง 90°C

3. มาตรฐานการรับรอง (Certifications)

มาตรฐานสากล: สายโซลาร์เซลล์ที่ดีควรได้รับการรับรองมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันคุณภาพและความปลอดภัย เช่น:
- EN 50618:2014: เป็นมาตรฐานยุโรปล่าสุดสำหรับสายไฟโซลาร์เซลล์ (Photovoltaic Cable) ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
- IEC 62930:2017: เป็นมาตรฐานสากลสำหรับสายเคเบิลสำหรับระบบเซลล์แสงอาทิตย์ (Photovoltaic systems)
- มอก. 62930-2564: เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมของไทยที่อ้างอิงมาจาก IEC 62930
- 2 PfG 1169/08.2007 (สำหรับสาย PV1-F): เป็นมาตรฐานเก่าที่เคยใช้สำหรับสาย PV1-F ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาเป็นมาตรฐานใหม่ๆ เช่น H1Z2Z2-K
การระบุข้อมูลบนสาย: สายไฟที่ดีจะต้องมีการพิมพ์ข้อมูลที่ชัดเจนบนเปลือกหุ้ม ได้แก่ ชื่อผู้ผลิต, ประเภทสาย (เช่น H1Z2Z2-K), ขนาดสาย, แรงดันไฟฟ้าที่รองรับ, และมาตรฐานที่ได้รับการรับรอง โดยมีระยะห่างที่เหมาะสมและข้อความคงทน

4. พิกัดแรงดันไฟฟ้า (Voltage Rating)

แรงดันไฟฟ้ากระแสตรง (DC Voltage): สายโซลาร์เซลล์เป็นสายไฟ DC โดยเฉพาะ โดยทั่วไปควรมีพิกัดแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงสูง เช่น 1.5 kV DC (สามารถใช้งานสูงสุดได้ถึง 1.8 kV DC) เพื่อรองรับแรงดันสูงที่มาจากแผงโซลาร์เซลล์หลายแผงที่ต่ออนุกรมกัน

5. อายุการใช้งานที่ยาวนาน

ความทนทาน: สายโซลาร์เซลล์ที่ดีควรมีอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 25 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับอายุการใช้งานของแผงโซลาร์เซลล์

มุมโชว์ตัวอย่างสินค้าสายโซลาร์ทั้งสองแบรนด์ เฟจดอจและฟีนิกส์ — Show Room - แสดงสินค้าสายโซลาร์ พร้อมเอกสารประกอบ ฟรี

ตัวอย่างประเภทสายโซลาร์เซลล์ที่นิยมและมีคุณสมบัติดี

สาย H1Z2Z2-K: เป็นชื่อสายที่ผลิตตามมาตรฐาน EN 50618 ซึ่งเป็นมาตรฐานล่าสุด มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กล่าวมาข้างต้น ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับระบบโซลาร์เซลล์
สาย PV1-F: เป็นสายที่เคยนิยมใช้และผลิตตามมาตรฐาน 2 PfG 1169/08.2007 ซึ่งปัจจุบันมีการใช้มาตรฐานใหม่ๆ ที่ดีกว่าเข้ามาแทนที่ แต่ก็ยังคงพบเห็นได้ในตลาด

การเลือกใช้สายโซลาร์เซลล์ที่ได้มาตรฐานและมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กล่าวมานี้ จะช่วยให้ระบบโซลาร์เซลล์ของคุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ปลอดภัย และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานคุ้มค่ากับการลงทุน