เจาะลึกการคำนวณโหลดบ้าน + การเลือก Inverter และแผงโซลาร์ให้เหมาะสม

จากบทความก่อนหน้านี้ เราได้อธิบายวิธีการอ่านค่าการใช้ไฟฟ้าจาก มิเตอร์บ้าน เพื่อดูว่าบ้านใช้ไฟฟ้าเท่าไร แต่คำถามที่เจ้าของบ้านหลายท่านมักสงสัยคือ:

• หากไม่สามารถดูมิเตอร์ไฟฟ้าได้ จะประเมินการใช้ไฟฟ้าอย่างไร?

• Inverter ควรเลือกขนาดเท่าใดจึงจะเหมาะสม?

• และที่สำคัญ… W (Watt) กับ Wh (Watt-hour) ต่างกันอย่างไร?

  
  

บทความนี้จะอธิบายความแตกต่างของ Watt (W) และ Watt-hour (Wh) พร้อมทั้งแนวทางประเมินโหลดบ้านจากเครื่องใช้ไฟฟ้า และวิธีเลือก Inverter (แนะนำ Huawei) และ แผงโซลาร์ (แนะนำ JA Solar) เพื่อให้คุณได้ระบบโซลาร์ที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด

W และ Wh คืออะไร?

Watt (W) = กำลังไฟฟ้าคือปริมาณไฟฟ้าที่อุปกรณ์ใช้หรือผลิต ณ ขณะเวลาหนึ่ง ๆ เช่น

• พัดลม 60 W → ใช้ไฟ 60 W เมื่อเปิดใช้งาน

• แผงโซลาร์ 550 W → ผลิตไฟ 550 W ขณะมีแสงแดดเต็มกำลัง

  
  

Watt-hour (Wh) = พลังงานไฟฟ้าคือปริมาณกำลังไฟฟ้าที่ใช้หรือผลิตรวมในช่วงเวลาที่กำหนด (หน่วยเป็นชั่วโมง) เช่น

• พัดลม 60 W เปิด 5 ชั่วโมง → 60 × 5 = 300 Wh หรือ 0.3 kWh

  
  

👉 สำหรับการเลือกอุปกรณ์โซลาร์ เราจะคำนวณจาก โหลดสูงสุด (W) เป็นหลัก เพื่อกำหนดขนาด Inverter และจำนวนแผงโซลาร์ที่รองรับกำลังไฟ ณ เวลาหนึ่ง ๆ ส่วน Wh มักใช้ในการคำนวณร่วมกับ แบตเตอรี่ ซึ่งจะกล่าวถึงเพิ่มเติมในบทความถัดไป

วิธีประเมินโหลดบ้าน (กรณีไม่ทราบข้อมูลจากมิเตอร์) การคำนวณโหลดบ้าน

1. จัดทำรายการเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้งานบ่อย โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางวัน (ช่วงที่ระบบโซลาร์ทำงาน)

2. ตรวจสอบกำลังไฟ (W) ของแต่ละอุปกรณ์จากสติ๊กเกอร์หรือคู่มือ

3. รวมค่ากำลังไฟของอุปกรณ์ที่อาจเปิดใช้งานพร้อมกัน → จะได้ โหลดสูงสุด (Peak Load) ของบ้าน

   
   

ตัวอย่างการคำนวณโหลดบ้านทั่วไป

อุปกรณ์	กำลังไฟ (W)	จำนวน	รวม (W)
แอร์ 12,000 BTU	1,200	2	2,400
ตู้เย็น 2 ประตู	200	1	200
ทีวี	150	1	150
พัดลม	60	2	120
รวมโหลดสูงสุด			2,870 W

✨ ดังนั้น โหลดสูงสุดของบ้านตัวอย่างนี้คือ 2,870 W

เลือก Inverter ขนาดไหนจึงจะเหมาะสม?

เมื่อได้ค่า Peak Load แล้ว สามารถเลือก Inverter ที่รองรับได้ใกล้เคียงหรือสูงกว่านี้เล็กน้อย

• โหลด ~2,870 W → แนะนำ Inverter 3 kW

• โหลด ~4,500 W → แนะนำ Inverter 5 kW

(กรณีนี้ Klang Solar ขอแนะนำ Huawei Inverter ที่มีชื่อเสียงด้านความเสถียรและการจัดการพลังงานอัจฉริยะ)

ทำไมต้อง Huawei Inverter?

• มี เทคโนโลยีจัดการพลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy Management) เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด

• มาตรฐานความปลอดภัยสูง มั่นใจได้กับการใช้งานภายในบ้าน

• เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก ง่ายต่อการหาชิ้นส่วนและการดูแลหลังการขาย

  
  

เลือกแผงโซลาร์ให้เหมาะกับ Inverter

หลังจากเลือก Inverter แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือคำนวณจำนวนแผงโซลาร์ที่ต้องใช้ โดยสูตรคือ:

จำนวนแผงโซลาร์ = กำลัง Inverter ÷ กำลังต่อแผง

ตัวอย่าง:

• Inverter 3 kW + แผงโซลาร์ 550 W → 3,000 ÷ 550 = 5.45 ≈ 6 แผง

• Inverter 5 kW + แผงโซลาร์ 550 W → 5,000 ÷ 550 = 9.09 ≈ 10 แผง

ทำไมต้อง JA Solar?

• ใช้เทคโนโลยี Monocrystalline Half-Cell / PERC ที่ให้ประสิทธิภาพสูง

• ทนทานต่อฝุ่น ความชื้น และสภาพอากาศหลากหลาย

• เป็น Tier 1 Solar Panel ได้มาตรฐานสากล และมีการรับประกันคุณภาพยาวนาน

  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  

สรุปแนวทางเลือก Inverter และแผงโซลาร์สำหรับบ้าน

1. ประเมินโหลดบ้านจากเครื่องใช้ไฟฟ้า → หา Peak Load (W)

2. เลือก Huawei Inverter ขนาดใกล้เคียงกับ Peak Load

3. คำนวณจำนวนแผงโซลาร์จากสูตร Inverter ÷ กำลังต่อแผง

4. ใช้ JA Solar เพื่อความคุ้มค่าในระยะยาวและประสิทธิภาพสูงสุด

   
   

✨ ไม่ว่าคุณจะมองหาระบบโซลาร์สำหรับ บ้านพักอาศัย หรือ ธุรกิจ/โรงงาน (C&I) ทีมงาน Klang Solar พร้อมให้คำปรึกษา ออกแบบ และติดตั้งระบบครบวงจร โดยใช้ Huawei Inverter และ JA Solar Panel เพื่อผลลัพธ์ที่คุ้มค่าและเชื่อถือได้

📞 ติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาฟรีวันนี้ — ลงทุนครั้งเดียว ได้ระบบโซลาร์คุณภาพสูง ใช้งานยาวนาน และช่วยลดค่าไฟได้จริง